"อากาศ" เป็นส่วนสำคัญของการดำรงชีวิต
ไม่ว่าพืช หรือสัตว์
มนุษย์สูดเอาอากาศที่มีออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงสมอง เผาผลาญอาหาร
และเป็นส่วนสำคัญที่ฮีโมโกลบิน ในเม็ดเลือดแดง นำพาออกซิเจนไปเลี้ยงในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โดยเฉพาะสมอง ที่มีน้ำหนัก ในสัดส่วน 2 % ของน้ำหนักร่างกาย
แต่สมองใช้ออกซิเจน ที่ร่างกายรับเข้าไปถึง 20 %
ของทั้งหมด เราจะสังเกตได้ว่า เมื่อเราสูดอากาศบริสุทธิ์ เข้าไปเต็มปอด
มีออกซิเจนมากเพียงพอ จะรู้สึกได้ว่าสมองปลอดโปร่งแจ่มใส
แต่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะตัวเมือง
มีอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็ก
เนื่องจาก การก่อสร้าง
และภาคอุตสาหกรรม
ที่ปล่อยมีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ สารตะกั่ว และสารก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นภัยเงียบ ที่เราควรป้องกัน
โดยเฉพาะผู้ผลิตภาคอุตสาหกรรม
ควรมี ความรับผิดชอบต่อสังคม
และสิ่งแวดล้อม
ในการนำวัสดุกรองฝุ่น มาดักจับ
ผลหลังจากที่วัสดุผ่านการแปรรูป ทำให้เกิดเศษผงฝุ่นเล็กๆลอยในอากาศ หรือการพ่นของสี กระจายฟุ้งในอากาศได้ วัสดุกรองฝุ่นเช่น คาร์บอนฟิลเตอร์ (Carbon
filter) หรือ ฟองน้ำกรองฝุ่น
ฟิลเตอร์กรองฝุ่น เป็นต้น
เครื่องฟอกอากาศ จะช่วยถ่ายเทอากาศก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ให้เป็นก๊าซออกซิเจน สร้างประจุลบ
ช่วยลดเชื้อโรคในอากาศได้ ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นได้ เมื่ออยู่ในห้อง หรือบนรถ
3.ใช้ผ้าปิดจมูก
หรือหน้ากากอนามัย
โดยเฉพาะ ผู้ที่ทำงานนอกสถานที่
กลางแจ้ง การก่อสร้าง ผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์โดยสาร
แบบไม่มีเครื่องปรับอากาศ
ผู้ที่อาศัยใกล้ถนนใหญ่ ควรใช้ ผ้าปิดจมูก
หรือหน้ากากอนามัย
เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มองไม่เห็น รวมถึงกลิ่นควันรถยนต์ เข้าสู่ปอด
หน้ากากอนามัยมีหลากหลายรูปแบบ
ส่วนใหญ่แล้วถูกออกแบบให้กรองฝุ่น และเชื้อโรค โดย มีแผ่นคาร์บอน ความละเอียดสูง สามารถกรองฝุ่นละอองได้ ถึง 2.5 ไมครอน
4.ควันบุหรี่ หรือ
บุหรี่มือสอง
ควรอย่างยิ่ง
ที่จะหลีกเลี่ยง
ผู้ที่กำลังสูบบุหรี่ เพราะ
กลิ่นจากควันบุหรี่ ประกอบไปด้วย สารนิโคติน
ทาร์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรเจนไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ แอมโมเนีย
ไซยาไนด์ ฟอร์มาล์ดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง หากเราสูดดมเข้าไป จะได้รับสารนี้เต็มๆ เพราะไม่มีตัวกรองสารเหล่านี้
ซึ่งถูกปล่อยออกมาในอากาศเรียบร้อยแล้ว
เรียกว่า บุหรี่มือสองนั่นเอง
5.ไม่สตาร์ทรถทิ้งไว้ บริเวณบ้าน หรือ เพื่อจอดรอ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อถึงกำหนด
ทราบหรือไม่ ในไอเสียรถยนต์ มีก๊าซพิษ เช่น
-ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงไม่สมบูรณ์ เมื่อก๊าซนี้ถูกปล่อยออกมาจากท่อไอเสีย
ก๊าซนี้จะลอยปะปนอยู่ในอากาศเป็นจำนวนมาก เมื่อร่างกายสูดดมก๊าซนี้เข้าไป
จะไปแบ่งแยกออกซิเจน โดยไปรวมกับเฮโมโกลบิน กลายเป็น คาร์บอกซีเฮโมโกลบิน หากรับปริมาณมากเกินไป
โลหิตเปลี่ยนรูปแข็งตัวขึ้น ไหล ไม่ได้เซลล์ขาดออกซิเจน
จึงทำให้อึดอัดวิงเวียนศีรษะ
ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
-สารประกอบของตะกั่ว
พิษของสารตะกั่วที่มีต่อสุขภาพที่เห็นได้ชัดเจนมาก
คือ นอนไม่ค่อยจะหลับ อารมณ์ไม่แจ่มใส เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด ท้องผูก อาเจียน
ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เหงือกซีด โลหิตจาง ไตพิการ ทำลายเนื้อเยื่อสมอง
-ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์
(Sulfurdioxide)
เป็นก๊าซที่มีกลิ่นเหม็น
ทำให้ระบบทางเดินหายใจ เช่น จมูก ลำคออักเสบ ระคายเคือง
ทั้งนี้เนื่องมาจากในน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์มีกำมะถันปนอยุ่
เมื่อเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบรูณ์จะมีกาซกำมะถันปนอยู่
เมื่อเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบรูณ์จะมีก๊าซกำมะถันหลุดออกมาทางท่อไอเสียรถยนตื
ดังนั้นโรงกลั่นน้ำมันต้องกำจัดกำมะถันในน้ำมันดิบออกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ก๊าซนี้มีอันตรายต่อสุขภาพมากกว่า ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์
เพราะเป็นตัวนำที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบหายใจ
ทำให้สัตว์เจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้นในอัตราสูง ถ้าสูดเข้าไปเสมอ ๆ
ทำให้เกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
ถ้ามากทำให้ลิ้นไก่สั้นเกิดการเกร็งหดปิดทางเดินหายใจตายทันที
สำคัญที่สุดเป็นอันตรายต่อปอดในรายที่คนไข้เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจอยู่แล้ว
จะมีอาการเพิ่มมากขึ้น เมื่อได้รับซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ขนาด 0.25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
(ขนาดได้กลิ่นฉุน) บางตำราบอกว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหอบหืด ก๊าซนี้กำหนดไว้เพียง
6.ปลูกไม้ประดับ
ไม้ประดับ ที่มีความสามารถดูดซับ สารพิษได้นั้น ส่วนมากเป็นพืชไร้ดอก เช่น
พลูด่าง เศรษฐีเรือนใน โกสน
ปาล์มไผ่ ลิ้นมังกร เข็มริมแดง
หนวดปลาหมึก ว่านหางจระเข้ กวักมรกต
หนวดปลาหมึก เขียวหมื่นปี
เฟริ์นบอสตัน เป็นต้น
7.ดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย
ซึ่งก๊าซพิษที่เราได้รับเข้าไปนั้น จะทำให้ เกิดการขาดสมดุลโลหิต ซึ่งน้ำจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และปรับสมดุลในร่างกาย
8.หาตัวเองไปที่มีอากาศบริสุทธิ์
ในวันหยุด หรือวันพักผ่อน
คุณควรหาเวลาพาตัวเองไปสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์สดชื่นบาง คุณอาจไปยังสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
9.ทำความสะอาดบ้านทุกเช้าเย็น
การทำความสะอาดบ้านบ่อยครั้ง
จะทำให้ลดความเสี่ยงในการสูดดมฝุ่นละออง
ที่ลอยเข้ามาเกาะสิ่งของภายในบ้านของคุณ
ทำให้อากาศภายในบ้านปราศจากฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้
และโรคทางเดินหายใจ
By Thamon
http://www.poolprop.com/Article.aspx/
http://campus.sanook.com/948416/
https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi3/tol/toln.htm