วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ไรฝุ่นในอาหาร อันตรายถึงชีวิต

wikipedia.com


ไรฝุ่น เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งอยู่ในกลุ่มของสัตว์ขาข้อ  เช่นเดียวกับแมงมุม  แมงป่อง  ไรฝุ่นมีขนาดเล็ก  รูปร่างกลมรี  สีขาวขุ่น  ขนาดประมาณ  0.1  ถึง  0.3  มม.  มีขา 4  คู่  ไม่มีตา  ไม่มีหนวด   ส่วนของปากจะยื่นออกไปข้างหน้า    ลำตัว มี ลักษณะคล้ายส่วนหัว  ผนังลำตัวของไร  ทั้งด้านหลังและ ใต้ท้อง  จะเป็นร่องเล็กๆ  ลึกลงไปภายในลำตัว คล้ายลายนิ้วมือมนุษย์    ตามลำตัวมีขนยาวติด และยังมีขนสั้นๆ  อีกจำนวนมาก


ไรฝุ่น พบได้ในน้ำทะเล แม่น้ำ ดิน  ไรบางชนิด ให้โทษต่อสัตว์ และ พืช ซึ่งนำโรคมาให้  แต่บางชนิดก็ให้ประโยชน์แก่การเกษตร และทำลายศัตรูพืช



ฝุ่นในบ้านเรา  เป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตเล็กๆหลายชนิด  ที่กินเศษซากแมลง  ละอองเกสร และสปอร์ของเชื้อราเป็นอาหาร  นอกจากนี้  ยังมีไรฝุ่นปะปนอยู่กว่า 30ชนิด

https://www.cheminpestcontrol.com/products/product-39



นอกจากไรฝุ่น จะอยู่ตามแหล่งธรรมชาติ  และ  ตาม สถานที่อยู่อาศัย  ยังสามารถ เข้าไปปะปนอยู่ในวัตถุดิบ หรือ อาหารได้อีกด้วย   และจะแพร่พันธุ์  เมื่อมีปัจจัยต่อการดำรงชีวิต  เมื่อส่องกล้องจุลทรรศ์ สามารถ พบได้เป็นแสนตัว  




เมื่อนำไปประกอบอาหาร แม้ ผ่านความร้อนถึง 100 องศาเซลเซียส  ตัวไรฝุ่น อาจจะตายลง  แต่ สารก่อภูมิแพ้ในรูปโปรตีนยังคงอยู่  เมื่อร่างกายดูดซึมสารก่อภูมิแพ้ในรูปโปรตีน  จะมีอาการแพ้รุนแรง  (Anaphylaxis)  โดยเฉพาะ ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ไรฝุ่นอยู่แล้ว  จะแสดงอาการใน  1 -2 ชม .  


คลินิกภูมิแพ้


อาการแพ้ไรฝุ่น  จะเริ่ม คันปาก  คันคอ  หนังตาบวม  คันตามฝ่ามือฝ่าเท้า  แน่นหน้าอก  หายในไม่ออก  และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องร่วมด้วย 

ได้มีรายงานการ

พบไรฝุ่น  ชนิด Dermatophagoides Farinae   ในวัตถุดิบประเภทแป้ง  นอกจากแป้งแล้ว ยังมีรายงาน ในต่างประเทศ เคยพบ ใน  ชีส  ดังนั้น อาหารชนิดอื่นๆ  ก็ยังมีโอกาสที่จะพบไรฝุ่น ได้

(คลิป Mu (Mahidol Channel)

วิธีการป้องกัน 

1. ควรเก็บวัตถุดิบมิดชิด  

2. แช่เย็นอุณภูมิ ต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส 

2. ในกรณีการเปิดใช้แป้ง ไม่ควรเก็บนานเกิน  4-6 สัปดาห์

3. เก็บและหมั่นทำความสะอาด พื้นที่โดยรอบอยู่เสมอ





วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ช่วยโลก! หยุดใช้ถุง PE หยุดทิ้งพลาสติก


การเผชิญกับภาวะโลกร้อน  มลพิษที่เกิดขึ้น  การสูญพันธุ์ของสัตว์ป่า และสัตว์น้ำ  ที่เห็นผลอย่างชัดเจนมากขึ้น  จากการสะสมพฤติกรรมที่ละเลย และการทำลายของมนุษย์  ไม่ว่าจะเป็นทางตรง  หรือทางอ้อม  ก็ได้ส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติอย่างเห็นได้ชัด   นับว่าเป็นปัญหาระดับโลก  การเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่องค์กรใหญ่ๆ ในไทยกำลังจะร่วมมือกันลดปัญหา อย่างการใช้ถุงพลาสติก มานานนับกว่า 20 ปี  กำลังหันมาใช้ถุงผ้า  แทนถุงพลาสติก





ทำไมต้องเลิกใช้ถุงพลาสติก?

ถุงพลาสติก ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ส่วนมากมีแหล่งกำเนิดจากปิโตรเลียม  รวมถึงน้ำมันดิบ  ซึ่ง พลาสติกประเภท LDPE, PP  ส่วนใหญ่ ทนสารเคมี  ทนความร้อน  ยืดหยุ่นสูง ทนแรงฉีกขาดดี   จึงเหมาะแก่การนำมา ทำเป็นถุงพลาสติก  จากการสังเคราะห์ขึ้นมานี้  จึงมีสารที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ไม่สามารถย่อยสลายได้เอง ถุงพลาสติก 1 ใบ ใช้เวลาในการย่อยสลาย 450 ปี ทุกปีมีคนชอปปิงทั่วโลกแล้วใช้ทุกพลาสติกมากกว่า 10,000 ล้าน ต่อปี ซึ่งต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนานกว่า 1,000 ปี  




โพสต์ของ  J-WA




อันที่จริงแล้ว ถุงพลาสติก และพลาสติกประเภทอื่น สามารถนำไปรีไซเคิล  หรือ นำกลับมาใช้ใหม่ได้   แต่อันเนื่องมาจาก  พฤติกรรมที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์  เช่น  การใช้ถุงพลาสติกแล้วไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้  การทิ้งถุงพลาสติกลงแม่น้ำ  ลงท้องทะเล และมหาสมุทร  การฝังลงดิน หรือเผาเพื่อทำลาย  นำมาซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ  และจะเป็นห่วงโซ่มีผลกระทบถึงมนุษย์โดยตรง  รวมทั้งกระทบต่อสิ่งมีชีวิต และสภาพแวดล้อมอย่างมหาศาล  ไม่เพียงแต่ถุงพลาสติกเท่านั้น  ยังรวมไปถึงพลาสติกประเภทอื่นๆอีกด้วย




ด้วยบทบาทหน้าที่ของ ถุงพลาสติก ในชีวิตประจำวันของเรา เช่น นำไปใส่อาหาร  นำไปใส่ขยะ  นำไปใส่ของ  และนำไปเป็นแพคเกจสินค้าเป็นจำนวนมาก  ด้วยความเล็กและน้ำหนักเบาของถุงพลาสติก  ในบางครั้งก็ยากแก่การคัดแยกเพื่อนำไปรีไซเคิล  ตัวกลางรับซื้อของเก่าในบางที่ ก็ไม่รับนำไปรีไซเคิลด้วยเช่นกัน   ที่สำคัญอย่างยิ่งคือการทิ้งอย่างละเลย  และการกำจัดอย่างผิดวิธี




การลดถุงพลาสติก  ที่เป็นจำนวนมหาศาลนี้ลงได้  จะช่วยลดภาวะเรือนกระจก ภาวะโลกร้อน และเยียวยาสภาพแวดล้อมทั้งบนบกและน้ำ ให้เบาบางลงได้   จึงมีการคิดค้น นวัตกรรมใหม่ๆ  เพื่อให้ถุงพลาสติกสามารถ ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ  เรียก ถุงย่อยสลายเหล่านี้ว่า  “Biodegradable Plastic” หรือ พลาสติกที่สลายได้ทางชีวภาพตามธรรมชาติ ซึ่งจะสลายไปเป็นน้ำและคาร์บอนไดซ์ออกไซด์   ซึ่งจะไม่มีส่วนผสมของ PE  หรือ Polyethylene



การเริ่มต้นจากจุดเล็กๆใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก เพียง 1 ก้าวนี้ ไปด้วยกัน   จะช่วยยืดอายุให้แก่โลก คืนสู่ความสมบูรณ์แก่ธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่าสัตว์น้ำ  หากจำเป็นที่ต้องใช้ถุงพลาสติก  เลือกใช้ถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ  ไม่มีสาร PE
หยุดทิ้ง  หยุดใช้ เพื่อโลก


From:


วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

พยาธิในฝุ่นละออง


พยาธิในฝุ่นละออง

การรักษาความสะอาดที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม  ชุดปูเตียง ผ้าห่ม ที่นอน ให้สะอาดอยู่เสมอ  สามารถหลีกเลี่ยง การปนเปื้อนของไข่ปรสิต ซึ่งก็คือพยาธิเข็มหมุด   ซึ่งไข่ของมันสามารถ อาศัยอยู่ในฝุ่นละอองได้นานถึง 2 สัปดาห์  และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า 




ไข่พยาธิเข็มหมุดเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ทางปาก และการหายใจ  สามารถปนเปื้อนอยู่ตามผ้าห่ม ที่นอน เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว  ทำให้การฟุ้งกระจายในอากาศและหายใจเข้าไปได้โดยไม่รู้ตัว

เมื่อไข่พยาธิกลายเป็นพยาธิเต็มวัย  จะมีชีวิตได้อยู่ในกระเพาะอาหารประมาณ 5-6 สัปดาห์  ก่อนตายตัวเมียจะขึ้นมาวางไข่ ที่รอบรูทวารหนัก ในเวลากลางคืน  ทำใหเกิดอาการคันบริเวณดังกล่าว





เราสามารถป้องกันพยาธิได้ด้วยการ  ล้างมือให้สะอาด ก่อนรับประทานอาหาร และตรวจสอบเล็บให้สั้นและสะอาดอยู่เสมอ  เพื่อป้องกันการสะสมของไข่พยาธิ  การทำความสะอาด เสื้อผ้า ที่นอน หรือแม้กระทั่ง  พรม ผ้าปูพื้นบ้านต่างๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ  หมั่นซักและเปลี่ยนผ้าปูที่นอน โดยเฉพาะในช่วง 7-10 วันหลังจากการรักษา


เพื่อป้องกันการเกิดฝุ่นละออง  และโอกาสที่จะเกิดการปนเปื้อนของไข่พยาธิในอากาศ  เก็บกวาดห้องให้สะอาดและเปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้ามาภายในห้อง เนื่องจากไข่ของพยาธิไม่สามารถทนต่อแสงแดดได้


วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562


คาร์บอนฟิลเตอร์  และ  เฮป้าฟิลเตอร์  เลือกใช้อันไหนดี


ตลาดในทุกวันนี้  มีตัวกรองอากาศ มากมายหลายชนิด จนไม่แน่ใจว่าจะเลือกอย่างไร และ มีอะไรบ้างกันแน่
ตัวกรองอากาศ แต่ละชนิด มีความสามารถในตัวของมันเอง  บางชนิดสามารถกรองฝุ่น  บางชนิดมีความสามารถกรองจำพวกแบคทีเรีย  บางชนิดสามารถกรองกลิ่นได้  บางชนิดกรองและฆ่าเชื้อในอากาศ 


จะให้ดีที่สุด  ควรอ่านว่าตัวกรองแบบไหนเหมาะสำหรับอากาศ รอบๆตัวคุณ  ตัวกรองอากาศบางจำพวกก็อันตรายได้เช่นเดียวกัน  ตัวกรองที่สามารถผลิตโอโซน  และอัลตร้าไวโอเลต  เพื่อฆ่าแบคทีเรีย ไวรัส  และจำพวกฟังไจ (fungi)  ในอากาศ  การผลิตโอโซนและ อัลตร้าไวโอเลตนี้เอง  ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์  ดังนั้นควรจัดการให้ดี หรือใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น 


อย่างไรก็ตาม  มีตัวกรองบางชนิดที่ปลอดภัยอย่างที่สุด  ที่จะสามารถใช้ภายในบ้านและรอบๆบ้านของคุณได้  คือ เฮป้าฟิลเตอร์ (Hepa Filter) และคาร์บอนฟิลเตอร์ (Carbon Filter) 


เฮป้าฟิลเตอร์ (Hepa Filter) คืออะไร

www.thailittleroom.com

HEPA  หรือ  เฮป้า  มาจาก คำว่า  High Efficiency Particulate Air เรียกย่อว่า HEPA  ได้ให้คำนิยามไว้ในเชิงกลศาสตร์ การกรอง เนื่องจาก อากาศจะต้องถูกบังคับให้ผ่านเพื่อให้ทำงานได้  ซึ่งแตกต่างจากเครื่องผลิตโอโซน  เป็นการทำงานในกระบวนการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง



ตัวกรองเหล่านี้อยู่ในเครื่องฟอกอากาศ  ที่จะดึงอากาศเข้าไป และดักจับ  เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ฟังไจ ด้วยไฟเบอร์กลาสทอแบบแรนดอม  ที่ดักจับอนุภาค และทำลายแบคทีเรีย ไวรัส ที่ลอยในอากาศ   แบคทีเรีย ไวรัส เหล่านี้จะถูกตรึงไว้จนกว่า จะทำความสะอาดเฮป้าหรือกำจัดทิ้ง  การกำจัดทิ้ง หรือทำความสะอาด  ก็ควรที่จะ ทำบริเวณนอกบ้าน




เฮป้าฟิลเตอร์ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและดูแลรักษาเฮป้าฟิลเตอร์ด้วย   ซึ่งเฮป้ามีชนิดแบบล้างได้  และ  แบบติดถาวรล้างไม่ได้  ซึ่งทั้ง 2 ชนิด จะต้องมีการเป่า หรือล้าง ทำความสะอาด ดูแลรักษา ตลอดทุกๆ 2 -3เดือน
หากทำความสะอาดเป็นบางครั้งบางคราว  หรือปล่อยช่วงนาน กว่านั้น เครื่องอาจเตือน เนื่องจากการชำรุด หรือ เสียหาย  มันสามารถปล่อยฝุ่นละอองก่อการแพ้  เชื้อรา หรือทำให้สภาพอาการแย่ลงกว่าเดิม


คาร์บอนฟิลเตอร์  (Carbon Filter)  คืออะไร

www.thailittleroom.com



คาร์บอนฟิลเตอร์มีส่วนผสมของถ่านกัมมันต์ ที่ช่วยดักจับ แบคทีเรีย  และสิ่งสกปรกอื่นๆในอากาศ  จะแตกต่างจากเฮป้าฟิลเตอร์ ที่ คาร์บอนฟิลเตอร์ จะใช้การดูดซึม  นำสารปนเปื้อนเข้าไปที่มีลักษณะคล้ายรูพรุนบนผิวหน้าของมัน (ขึ้นอยู่กับความละเอียดการกรอง)  สามารถใช้กรองน้ำ ได้ดีเท่าๆกับ การกรองฝุ่น กรองอากาศ หรือจัดการจำพวกก๊าซ  และได้ผลดีในการจัดการจำพวกแบคทีเรีย หรือจุลชีวัน  แต่ไม่สามารถใช้ในโรงพยาบาล  หรือ ห้องคลีนรูมได้


คาร์บอนฟิลเตอร์  มีประสิทธิภาพน้อยกว่า เฮป้าฟิลเตอร์เล็กน้อย  เพื่อให้คาร์บอนฟิลเตอร์มีประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น  ถ่านกัมมันต์จะต้องมีส่วนผสมที่มากขึ้น  จะช่วยให้สามารถดูดซับแบคทีเรีย ไวรัส ในอากาศ หรือ น้ำ ที่ไหลผ่านตัวมัน  มันจะช่วยได้มากสำหรับการดูดซับจำพวกก๊าซ หรือ กลิ่น มากกว่า เหล่าจุลินทรีย์ แบคทีเรีย   อายุการใช้งานของคาร์บอนฟิลเตอร์ จะอยู่ได้เพียงไม่กี่ปี  นอกจาก ต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่ ในที่สุด


อะไรดีกว่ากัน ระหว่าง คาร์บอนฟิลเตอร์ และ เฮป้าฟิลเตอร์


คาร์บอนฟิลเตอร์ และเฮป้าฟิลเตอร์ ทั้ง 2 ตัวนี้  จะทำในสิ่งที่อีกตัว ทำไม่ได้  เฮป้าฟิลเตอร์  เก่งในเรื่องการดักจับอนุภาคทางกายภาพ  เช่นมลพิษ  ฝุ่นละออง  เชื้อรา  และ อื่นๆที่ก่อให้เกิดอาการแพ้   คาร์บอนฟิลเตอร์ เก่งในเรื่องของ การกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์  ควัน  และอนุภาคก๊าซ


ไม่ว่าคุณต้องการที่จะดักจับ กลิ่นไม่พึงประสงค์   หรือ  ละอองที่ก่อการแพ้  การใช้ตัวกรองเหล่านี้ ก็ทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น   อากาศรอบๆตัวคุณก็จะดีขึ้น  ใช้ทั้ง 2 ตัวกรอง ก็จะดียิ่งขึ้น  อย่าประเมินค่าต่ำไปจากสุขภาพที่คุณจะได้รับจากคุณภาพอากาศที่ดี   ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้  แต่การหาตัวกรองอากาศมาใช้ก็เป็นความคิดที่ดีเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น


วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2562

PM 2.5

PM 2.5  คืออะไร ?


PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วน ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์  จึงไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  ขนจมูกไม่สามารถป้องกันไม่ให้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้  ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อถุงลมปอด กระแสเลือด  ผิวหนัง และสมอง  ก่อเกิดโรคเรื้อรัง และมะเร็ง


 Cr:diamondenv.wordpress.com


ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ?


ฝุ่น PM 2.5  หรือฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน  เมื่อซึมสู่ผนังปอดเข้าสู่กระแสเลือด จะมีผลต่อร่างกายอย่างเฉียบพลัน  เห็นผลภายใน 1-2 วัน  มีผลโดยตรงต่อระบบหายใจ  คือ  ไอ เจ็บคอ หายใจดังฟืดฟาด  เลือดกำเดาไหล  และการเกิด โรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งมีความอันตรายเท่าการสูบบุหรี่ คือการสูดเอาฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าไปที่ปอด  ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงาน ให้เม็ดเลือดขาวกินฝุ่นพวกนี้เพื่อรักษาร่างกาย  แต่ไม่สามารถย่อยได้จึงตาย แล้วปล่อยเอมไซม์น้ำย่อย  มาย่อยผนังปอด ทำให้ถุงลมนับร้อยแตกออกเหลือถุงเดียว  พื้นที่การแลกเปลี่ยนก๊าซ ลดน้อยลง ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย

ทั้งนี้ยังมีผลต่อผิวหนังโดยตรง โดยมีอาการ  คันตามร่างกาย และปวดแสบทั้งตัว อาการหนักเข้า จะรู้สึกร้อนทั้งตัว  ทั้งตา  รอบปาก  จมูก  ใบหน้า  ขาหนีบ  ข้อพับต่างๆ  กินหรือทายา ไม่หาย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอยู่เดิม เช่น โรคภูมิแพ้ผัวหนัง หรือ โรคผื่นผิวหนังอักเสบ จะมีอาการระคายเคืองได้มากยิ่งขึ้น


เมื่อฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่กระแสเลือด ผ่านเข้าประสาทการรับกลิ่น ที่อยู่ในโพรงจมูก  และผ่านเข้าไปยังสมองโดยตรง  ทำให้เกิดกระบวนการอักเสบในสมอง  มีการหลั่งสารการอักเสบชนิดต่างๆ   ทำให้เซลล์สมองได้รับการบาดเจ็บ  เกิดภาวะสมองเสื่อมเร็วกว่าผิดปกติ  ในเด็กจะมีสติปัญญาด้อยลง  ในผู้ใหญ่เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ถึง 3 เท่า และเกิดโรคพาร์กินสัน เพิ่มได้ถึง 34 % ผู้ที่มีอาการไมเกรน  จะถูกกระตุ้นให้ปวดศีรษะรุนแรงขึ้นได้


PM 2.5 เกิดจากอะไร?

-การเผาไหม้ การโรงงานอุตสาหกรรม
-การเผาไหม้ ของเชื้อเพลิง  รถยนต์  ยานพาหนะ  
-การผลิตไฟฟ้า
-การเผาป่า และ ขยะ
-การรวมตัวของก๊าซต่างๆ  เช่น  ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์  ไนโตรเจน  สารปรอท  แคดเมียม  อาร์เชนิก  

ซึ่ง PM 2.5 เป็นพาหะให้กับสารเหล่านี้  


PM2.5  มีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตใดบ้าง?


แน่นอนว่ามนุษย์ที่เป็นต้นเหตุจากกิจกรรมการก่อให้เกิด PM 2.5 ซึี่งต้องได้รับผลกระทบเต็มๆ  ยังมีสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ เช่น สัตว์เลี้ยง  สัตว์ทั่วไป  สัตว์ปีก

-มนุษย์ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง  หญิงตั้งครรภ์  เด็กเล็ก  ผู้สูงอายุ   
-หมาแมวที่มีหน้าสั้น  ซึ่งมีระบบทางเดินหายใจที่ไม่ดีเท่า  หมาแมวที่มีลักษณะหน้ายาว  
-สัตว์เพิ่งเกิด  สัตว์อายุมาก สัตว์ป่วยเรื้อรัง
-นกที่อยู่ในกรง  ไม่สามารถบินหนีได้  
-เป็ด ไก่ ห่าน จะออกไข่น้อยลง

โดยสัตว์เหล่านี้จะมีอาการ  น้ำหูน้ำตาไหล  ไอ  เบื่ออาหาร  หายใจหอบ  หายใจทางปาก  



ทางป้องกัน

1.สวมหน้ากากอนามัย  N95  เมื่อออกนอกบ้าน
2.ใช้ผลิตภัณฑ์กรองฝุ่น Air Filter กรองฝุ่น PM 2.5   ภายในบ้าน  ใช้ร่วมกับแอร์ และ พัดลม
3.หลีกเลี่ยงให้สัตว์เลี้ยงเผชิญหน้ากับฝุ่น PM 2.5 ไมว่า จะเป็น หมา แมว นก ไก่ ห่าน เป็ด  
4.ไม่วิ่งออกกำลังกายในพื้นที่ที่มี ค่าละอองฝุ่น PM 2.5  เกินค่ามาตรฐาน     และไม่ใส่ หน้ากากอนามัยขณะวิ่ง  เนื่องจาก เราจะสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เราหายใจออกไป  เข้ามาใหม่
5.ทานผัก ผลไม้สามารถช่วยต้านอนุมูลอิระ ลดการอักเสบของสมองได้
6.ใส่เสื้อผ้ามิดชิดพยายามไม่ให้ผัวหนังสัมผัสกับอากาศโดยตรง
7.ไม่เผาป่า ขยะในที่โล่ง
8.ร่วมกันใช้พลังงานทดแทน 



  
https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=28500
https://www.tqm.co.th/blog/4%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81PM2.5/
https://act.greenpeace.org/ea-action/action?ea.client.id=1827&ea.campaign.id=54953
https://www.thairath.co.th/scoop/1473066?fbclid=IwAR2kTcqDgQxm2DRxmvwiKEdeB4Uovag5AisK0-ftoR4-kmNyKYzyQufzTMM




วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562

ยินดีด้วยค่ะ คุณอยู่ในยุคภาวะโลกร้อน


ในเดือน เมษายน  ประเทศไทย จะทำมุมตั้งฉากกับดวงอาทิตย์พอดี  ทำให้มีอุณหภูมิ 35- 40  องศาเซลเซียส  และดูเหมือนว่า  เดือนเมษายนในทุกๆปี    อากาศจะร้อนขึ้น  และร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง   จากภาวะโลกร้อน


ภาวะโลกร้อน เป็นปัญหาระดับโลก จากรายงานของ IPCC  จัดทำโดยนักวิทยาศาสตร์ กว่า 2500 คน  ใน 130  ประเทศ  สรุปว่า  มนุษย์  เป็นสาเหตุ ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน  การทำอุตสาหกรรม การปล่อยมลพิษทางอากาศ  คาร์บอนไดออกไซต์  มีเทน  และไนตรัสออกไซต์ ออกมามาก เกินกว่าต้นไม้ และมหาสมุทร ที่คอยรีไซเคิลก๊าซคาร์บอนได้ออกไซต์  จะสามารถรับได้   ทำให้โลกร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปี  รวมถึงฝุ่นที่ตามมาด้วย




สตีเฟ่น  ฮอว์กิง  นักฟิสิกส์และนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก  ชาวอังกฤษ ได้ทำนายโลก ใน อีก 100-200  ปีข้างหน้า   อย่างน่าสนใจ  เกี่ยวกับ  ภาวะโลกร้อน  ซึ่งอุณหภูมิ จะสูงถึง 200  องศาเซลเซียส ทำให้ต้องอพยพผู้คนไปยังดาวอื่น


ด้วยภาวะโลกร้อน  ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย  และคาดว่าจะเกิด  น้ำท่วมโลก   แต่สิ่งที่น่าหวาดหวั่นอย่างที่สุด   คือ  เชื้อโรค  ที่ฝัง  อยู่ในชั้นน้ำแข็งที่เรียกว่า  ชั้น เพอร์มาฟรอซ (permafrost)



เพอร์มาฟรอซ (permafrost)  คือ  ชั้นหิน หรือ  ดิน  ในเขตหนาวจัด  มีอุณหภูมิ  0 องศาเซลเซียส   หรือ  ต่ำกว่านั้น เพอร์มาฟรอซ ปกคลุมพื้นที่อาณาเขตของโลก   1 ใน 4 ส่วน  ของซีกโลกเหนือ เพอร์มาฟรอซ   ประกอบไปด้วย  ดิน หิน  และทราย จับตัวกันด้วยน้ำแข็ง    อยู่เป็นเวลาหลายแสนปี



เมื่อ  เพอร์มาฟรอซ  ละลาย  แบคทีเรีย  และไวรัส  ที่เก่าแก่  ที่ถูกแช่ไว้นานหลายแสนปี จะละลายมากับน้ำ  ทำให้ คน และ สัตว์ ป่วยและ ล้มตาย 


เมื่อปี ค.ศ.  2005 นักวิทยาศาสตร์ของนาซาพบว่าเชื้อแบคทีเรีย Carnobacterium pleistocenium ซึ่งอยู่ในบ่อน้ำแข็งของอลาสกามานานกว่า 32,000 ปี หรือตั้งแต่ยุคที่ช้างแมมมอธยังมีชีวิตอยู่ สามารถกระดิกตัวและว่ายไปมาได้หลังก้อนน้ำแข็งที่ห่อหุ้มอยู่ละลาย และสองปีต่อมาสามารถทำให้แบคทีเรียที่มีอายุ 8 ล้านปี ซึ่งจำศีลอยู่ใต้ธารน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกา กลับมาเคลื่อนไหวมีชีวิตชีวาอีกครั้ง



เชื้อเหล่านี้จำศีลอยู่ได้นานเพราะบางชนิดมีการสร้างสปอร์ห่อหุ้มตัว เช่นเชื้อแอนแทร็กซ์ หรือบ้างก็เป็นไวรัสสายพันธุ์ขนาดใหญ่จนสามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดา ซึ่งไวรัสกลุ่มนี้จะมีความแข็งแกร่งและสามารถรักษาดีเอ็นเอของตนไว้ได้ดีกว่าไวรัสทั่วไป



ภาวะโลกร้อน  ยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งในปี ค.ศ.  2019  เป็นปีที่โลกร้อนที่สุด ซึ่งสูงเป็น 3 เท่าของปี ค.ศ.  2018   ซึ่งการมีอากาศร้อนขึ้นสูงแบบนี้ มีโอกาสเกิด พายุไต้ฝุ่น  ไซโคลนที่รุนแรง  ไฟป่าก่อเกิดฝุ่น   ภัยแล้ง  น้ำท่วมฉับพลัน


.
เซอร์ เดวิด แอตเทนบะระ นักธรรมชาติวิทยาอังกฤษ ออกมาเตือนว่าธรรมชาติและสังคมมนุษย์จะได้รับความเสียหายแบบไม่สามารถแก้ไขได้ หากไม่มีมาตรการป้องกันการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่เด็ดขาดภายในทศวรรษนี้  ซึ่งเขาได้พูดคำเตือนนี้ในสารคดีของเขา   Climate Change - The Facts 





"คนทั่วไปอาจยังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมากนัก แต่ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ ผลการศึกษานี้น่าตกใจอย่างมาก และชี้ให้เราเร่งย้ำเตือนให้ความรู้เรื่องภาวะโลกร้อนที่ถูกต้องกับผู้คน เพื่อให้พวกเขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยด่วน" ดร.ซีวีลเลก กล่าว


ปี  พ.ศ. 2561  นักวิชาการไทย  ด้านสิ่งแวดล้อม – แรงงาน  ให้ความรู้ผู้นำแรงงาน    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน  ซึ่งกระทบต่อแหล่งอาหาร  การเกษตร  หลังปรับเทคโนโลยีใหม่  ตามนโยบายสู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำ



สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ได้อธิบายความหมายของสังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ว่าเป็นสังคมที่ผู้คนส่วนใหญ่หันมาร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกรูปแบบหรือในกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดจากการดำรงชีวิตปกติ



โดยเฉพาะการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากกระบวนการผลิตของโรงงานหรือภาคอุตสาหกรรม เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันในสังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี สังคมคาร์บอนต่ำจึงต้องทำให้ผู้คนในสังคมมีความตระหนักถึงคุณภาพชีวิตที่เกิดจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีปริมาณคาร์บอนต่ำ
โดยผู้คนในสังคมมีความยึดโยงกับการเลือกใช้เทคโนโลยีหรือการพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญก็คือ จะต้องเป็นสังคมที่มีการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับระบบนิเวศที่สมดุลด้วย 



ข้อมูลอ้างอิง

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562

ถึงเวลาหรือยัง กับการจัดการปัญหามลพิษที่เชื่อมต่อกันเป็นลูกโซ่?






โลกของเรามีชั้นของบรรยากาศห่อหุ้มอยู่โดยรอบหนาประมาณ 15 กิโลเมตร ชั้นของบรรยากาศดังกล่าวนี้ ประกอบด้วย ก๊าซไนโตรเจน ออกซิเจน ฝุ่นละอองไอน้ำ และเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ในจำนวนก๊าซเหล่านี้


 ก๊าซที่สำคัญที่สุดต่อการดำรงอยู่ของ สิ่งมีชีวิตในโลก คือ ก๊าซออกซิเจนและชั้นของบรรยากาศที่มีก๊าซออกซิเจนเพียงพอ ต่อการดำรงชีวิตมีความหนาเพียง 5 - 6 กิโลเมตรเท่านั้น


ซึ่งปกติ จะมีส่วนประกอบ ของก๊าซต่าง ๆ ค่อนข้างคงที่ คือ ก๊าซไนโตรเจน 78.09% ก๊าซออกซิเจน 20.94% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเฉื่อย 0.97%  ถือว่าเป็นอากาศบริสุทธิ์ 


แต่เมื่อใดก็ตามที่ส่วนประกอบของอากาศเปลี่ยนแปลงไปมีปริมาณ ของฝุ่นละออง ก๊าซ กลิ่น หมอกควัน ไอ ไอน้ำ เขม่าและกัมมันตภาพรังสีอยู่ในบรรยากาศมากเกินไป เราเรียกสภาวะดังกล่าวว่า อากาศเสีย หรือ มลพิษทางอากาศ  เกิดจาก


1. การเผาในที่โล่ง
 มาดูสารพิษที่เกิดจากการเผาในที่โล่ง
การเผา ปล่อย PM 2.5  ถึง 209,937 ตัน / ปี  ในพื้นที่เพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยวเพื่อป้อนเข้าสู่การผลิตอาหารของอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ ในทุกๆปี


แล้วการเผาขยะล่ะ จะปล่อยก๊าซอะไรมาบ้าง 
ารพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาขยะประเภทแก้วโฟมหรือถ้วยโฟม โฟมกันกระแทก กล่องโฟมบรรจุอาหาร จะทำให้เกิดการปล่อยก๊าซสไตรีน (Styrene)  สามารถถูกดูดซึมผ่านผิวหนังและปอดได้ 


อระเหยของสารนี้จะระคายเคืองตา จมูก และระบบทางเดินหายใจส่วนบน และจะทำให้รู้สึกมีรสโลหะในปาก อาการแบบเฉียบพลัน


 การได้รับปริมาณสไตรีนที่มีความเข้มข้นสูงทำให้เกิดการระคายผิวหนัง และผิวหนังอักเสบ ระคายเคืองจมูกและลำคอ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ง่วงซึม และอ่อนเพลีย เสียความสมดุลของระบบประสาทส่วนกลาง อาการแบบเรื้อรัง 


การได้รับสไตรีนติดต่อกันเป็นเวลานาน  ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย มีอันตรายต่อตับ ไต และระบบเลือด และเป็นสารก่อมะเร็ง


ส่วนการเผาไหม้พลาสติกประเภทพีวีซีทำให้เกิด การปล่อยก๊าซไดออกซิน เป็นสารพิษต่อระบบต่างๆ ในร่างกายของคน เป็นสารก่อมะเร็ง และรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมน สามารถสะสมในร่างกายและถ่ายทอดจากแม่ไปสู่ลูกได้ผ่านทางรก

2.การเผาไหม้จากน้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วนใหญ่แล้วมาจาก การเผาไหม้ในเชิงของการคมนาคมขนส่ง ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ เรือ เครื่องบิน ซึ่งปล่อย PM2.5 ราว 50,240 ตัน / ปี


และดูเหมือนว่า จำนวนการเผาไหม้เชื้อเพลิงรถยนต์ที่ปล่อยก๊าซนี้มากที่สุด คือ

1.รถยนต์เครื่องดีเซลล์ ช่วงที่ปล่อยคาร์บอนมอนนอกไซด์มากที่สุด คือรถประจำทาง รถบรรทุก ที่บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป 


2.รถยนต์เครื่องเบนซินช่วงที่ปล่อยคาร์บอนมอนนอกไซด์มากที่สุดคือ รถที่อยู่ระหว่างเบาเครื่องจอดติดเครื่องขณะรถติด 


3.รถยนต์ใช้น้ำมันผสมช่วงที่ปล่อยคาร์บอนมอนนอกไซด์มากที่สุด คือ สามล้อเครื่อง ขณะบรรทุกหนักและจอดรอสัญญาณไฟ



สารที่จะถูกปล่อยไปในอากาศ  คือ
ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์  (Carbon  monoxide) จะทำให้อึดอัดเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย โลหิตเปลี่ยนรูปแข็งตัวขึ้น ไหลไม่ได้ เซลล์ก็ขาดอ๊อกซิเจน จึงทำให้วิงเวียน อ่อนเพลีย เพราะสมองได้รับออกซิเจนน้อยนั่นเอง  




สารประกอบของตะกั่ว (Tetraethyl Lead) 

พิษของสารตะกั่วที่เห็นได้ชัดเจนมาก คือ นอนไม่ค่อยจะหลับ อารมณ์ไม่แจ่มใส เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด ท้องผูก อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เหงือกซีด โลหิตจาง ไตพิการ ทำลายเนื้อเยื่อสมอง ทำให้ปวดศีรษะ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของสิ่งมีชีวิตจนถึงตายได้ 



นอกจากนี้ตะกั่วยังไปสะสมได้ในกระดูก ทั้งนี้เพราะตะกั่วมีลักษณะคล้ายแคลเซี่ยมและสามารถสะสมในเนื้อเยื่ออ่อนโดยเฉพาะในสมอง ไต และอวัยวะอื่น ๆ ได้ด้วย 


เมื่อสารตะกั่ว ลอยขึ้นสู่อากาศ บางส่วนเข้าสู่ระบบหายใจ  และบางส่วนลอยสู่ผิวน้ำทะเล แม่น้ำลำคลอง
อันตรายของตะกั่ว ที่ถูกฝนชะล้างลงสู่แม่น้ำลำคลอง ไหลลงทะเล สัตว์น้ำ เช่น ปู ปลา กุ้ง หอย ก็รับเอาสารตะกั่วเข้าไปสะสมในร่างกาย 


เมื่อเรากินสัตว์น้ำพวกนี้เข้าไปก็ได้รับอันตรายจากพิษของตะกั่วเข้าไปด้วย โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่มีตะกั่วสะสมอยู่มาก คือ ปลา และหอยนางรม ที่เป็นอาหารอันโอชะของใครหลายคน



3.การผลิตไฟฟ้า 
การเผาไหม้ของเชื้อฟอสซิล  โรงไฟฟ้าถ่านหิน  เป็นสาเหตุหนึ่งของมลพิษทางอากาศทั่วโลก  รวมถึงสารพิษอันตรายจาก  ซัลเฟอร์ไดออกไซด์  และไนโตรเจนไดออกไซด์   สารพิษเหล่านี้  ลอยไปตามกระแสได้ไกลหลายร้อยหลายพันกิโลเมตร 



4. อุตสาหกรรมการผลิต
 ปล่อย PM2.5 ราว 65,140 ตันต่อปี โดยพบมากที่สุดในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด จังหวัดระยอง ซึ่งเกิดจากสารอินทรีย์ระเหยง่ายจากสารเคมีและอุตสาหกรรม



สารพิษ และสารเคมี ฝุ่นละออง PM 2.5  ที่ไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า สามารถเข้าสู่ระบบร่างกายทางจมูก  สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากการเติบโตของอุตสาหกรรม 



การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ซึ่งได้ถูกปล่อยไปสู่อากาศ น้ำ และดิน   พืช เมื่อสัตว์  ได้กิน สารพิษที่ปนเปื้อนเข้าไป ย่อมกระทบถึงระบบนิเวศตามธรรมชาติ และมนุษย์เองย่อมได้รับผลกระทบ เป็นลักษณะโดมีโน่


แม้ว่า จะมีมาตรการ ควบคุมมลพิษ  แต่ในทางปฎิบัติยังมีช่องโหว่ ที่ง่ายต่อการละเมิด  ถึงเวลาแล้วหรือยัง  ที่ภาครัฐควรหันมาใส่ใจสภาพแวดล้อม  และมลพิษทางอากาศ  เลือกใช้พลังงานทางเลือก เพื่อให้ต่ออายุให้โลกใบนี้ 


ข้อมูลอ้างอิง




http://www.deqp.go.th/knowledge/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8/%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%9E-%E0%B8%A9%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8/